EP 14: ทำอย่างไรให้ยอดขายเพิ่ม 10 เท่า? (ตอนที่ 2)

สวัสดี พี่ๆน้องๆ ชาว SMEs ทุกท่าน

สำหรับสัปดาห์นี้จะลงรายละเอียดของ OKRs จากหนังสือ best sellers Measure What Matters ซึ่งจุดเด่นประการแรกคือ OKRs ช่วยให้ Focus and Commitment to Priorities  การมุ่งเน้นและยึดมั่นในสิ่งที่ใช่

ซึ่งหนังสือได้ยกตัวอย่าง mobile app ชื่อ Remind ซึ่งก่อตั้งโดย Brett Kopf ซึ่งเกิดจากความเจ็บปวดด้านการศึกษาของเขาในวัยนักเรียน ตอน ป.5 ซึ่งเขาเริ่มรู้สึกว่าการนั่งเรียนคณิตศาสตร์ในแต่ละคาบที่ใช้เวลา 45 นาที ช่างยาวนานเหมือนชั่วนิจนิรันดร์ ทุรนทุรายเวลานั่งเรียน และไม่มีส่วนร่วมในห้องเรียน และในที่สุดก็ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder-ADHD) และมีความบกพร่องในการอ่าน (Dyslexia)

พ่อ แม่ของ Brett เป็นผู้ประกอบการซึ่งออกไปทำงานแต่เช้าตรู่ และค่อนข้างยุ่ง ตัว Brett เองก็ตั้งใจเรียน แต่เกรดก็ร่วงลงเรื่อยๆ ความมั่นใจในตัวลดลงไปพร้อมกับเกรด เพื่อนๆก็ล้อว่าเขาโง่ ตัวเขาเองก็เชื่อเช่นนั้นเสียด้วย

สิ่งที่มาเปลี่ยนชีวิต Brett เริ่มตอนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่คุณครู Denise Whitefield ซึ่งมาให้คำปรีกษาในลักษณะ one-on-one ทุกๆวัน คุณครูก็จะถามว่า “วันนี้เธอได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง” Brett ก็จะ list งานที่ทำ อาทิ ทำการบ้านประวัติศาสตร์ เขียนบทความภาษาอังกฤษ และ ทำแบบทดสอบเพื่อเตรียมตัวสอบคณิตศาสตร์ แล้วคุณครูก็จะบอกว่า “Brett เลือกมาสักเรื่องหนึ่งแล้วมาเล่ารายละเอียดให้ครูฟัง”  ซึ่งในแต่ละครั้งเขาจะเน้น(focus) แค่เรื่องเดียวและทำให้มันสำเร็จ  คุณครูก็มักจะบอก “พยายามต่อไปดีแล้ว” จริงๆแล้วการเรียนหนังสือไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Brett แต่พอทำไปเรื่อยๆ เขาก็เริ่มมั่นใจว่าเขาสามารถจัดการได้

คุณแม่ของเขาคุยกับคุณครูทุกสัปดาห์ และมาที่โรงเรียนอย่างน้อยเดือนละครั้ง คุณแม่และคุณครูมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ Brett ก้าวต่อไปให้ได้ ซึ่งในที่สุด Brett ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น บทเรียนที่พิสูจน์ความสามารถของ Brett คือ การสอบเข้ามหาวิทยาลัย( college-prep ACT exam) ซึ่งเขาต้องนั่งตอบคำถาม 600 ข้อ ภายใน 4 ชั่วโมง ซึ่งมันโหดร้ายสำหรับคนที่เป็นโรคสมาธิสั้นอย่างเขา  แต่สุดท้ายเขาก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย Michigan State ได้สำเร็จ

เวลาผู้คนหรือนักการเมือง จะปฎิรูปปัญหาด้านระบบการศึกษา (ใกล้เลือกตั้งละ) พวกเขามักจะเริ่มที่ปรับปรุงหลักสูตรหรือ หน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งส่งผลต่อคะแนนสอบ แต่สิ่งที่ผู้คนมักลืมก็คือ ความเชื่อมโยงของคน(human connections) ซึ่ง Startup ที่ชื่อ Remind มุ่งที่จะแก้ปัญหาในเรื่องนี้

ก็เหมือนกับ startup อื่น ทั่วๆไป  Remind เกิดขึ้นจากปัญหาของคนหนึ่งคน ตอนเรียนมหาวิทยาลัย Brett ก็พบปัญหาในการติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษา ไม่สามารถส่งงานต่างๆได้ทัน ไม่รู้จะคุยกับอาจารย์ยังไง เขาและเพื่อนมักจะตั้งคำถามว่า  ทำไมข้อมูลของหลักสูตรต่างๆ หายากจัง? ทำไมเขาไม่สามารถติดต่อกับคุณครู ที่ไหน เมื่อไรก็ได้ โดยใช้ สมาร์ทโฟน? เขารู้สึกว่ามีแรงผลักดันที่ต้องทำบางอย่างเพื่อนักเรียนๆหรือเพื่อนที่มีปัญหาอย่างเขา

สุดท้ายเขาก็เลยชวน David พี่ชาย ซึ่งทำงานด้าน web services security ในบริษัทประกันมาสร้าง start-up กัน เกือบสองปีที่เขาและพี่ชาย พยายามที่จะสร้าง app แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยข้อมูลอันน้อยนิด แรกๆเขาก็พยายามสร้างระบบที่ค่อนข้างโบราณ เช่น พรุ่งนี้ถ้ามีการสอบก็เอาข้อมูลมาใส่ในตาราง excel พอตอนกลางคืนก็ค่อยส่งข้อความไปทางโทรศัพท์ เตือนเพื่อนว่า อย่าลืมไปสอบวิชานี้ตอนกี่โมง ซึ่งมันใช้ได้เฉพาะลูกค้าไม่กี่ร้อยคน

ในปี 2011 เขาและพี่ชาย ย้ายไป Chicago และมีเงินทุนเริ่มต้นประมาณ 30,000 USD โดยหยิบยืมจากเพื่อนและครอบครัว พยายามที่จะออกแบบ app ให้ดูทันสมัยและใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยไม่ได้สนใจปัญหาหรือความต้องการของครูเลย

ขณะที่เงินทุนเหลือเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญ และบริษัทก็ใกล้จะปิดตัว Brett ต่อลมหายใจโดยเข้าคอร์ส Imagine K12: the Silicon Valley start-up accelerator for the education market ซึ่งเขาเรียนรู้ 3 แนวคิดของผู้ประกอบการที่สำคัญ คือ 1) ต้องแก้ปัญหา 2) สร้างสินค้าหรือบริการที่เรียบง่าย และ 3) คุยกับผู้ใช้บริการ

จากนั้น Brett ก็ตั้งเป้าหมายใน 10 สัปดาห์ ที่จะ สัมภาษณ์ครู 200 คน ในสหรัฐและแคนาดา ถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆในการสอนนักเรียน  สุดท้ายก็ได้ ความต้องการของครู คือ ต้องการที่จะสื่อสารไปที่นักเรียนว่าอย่าลืมส่งการบ้านพรุ่งนี้ การสื่อสารต้องง่ายและไม่ยุ่งยาก และนักเรียนต้องไม่เห็นข้อมูลส่วนตัวใดๆของครู นี่จึงกลายมาเป็นที่มาของ App Remind ที่คุณครูสามารถส่งข้อมูลไปยังนักเรียนโดยกดเพียงปุ่มเดียว ซึ่งนักเรียนจะไม่รู้เบอร์โทรศัพท์หรือข้อมูล Social network ของครูเลย

ในที่สุด App Remind ก็เริ่มประสบความสำเร็จ มีคน download 300,000 คนต่อวัน ตอนนี้งานเริ่มยุ่งมากขึ้น Brett เริ่มใช้ OKRs ตอนที่บริษัทมีพนักงาน 14 คน ภายใน 2 ปี พนักงานเพิ่มเป็น 60 คน ซึ่งในช่วงขณะใดขณะหนึ่ง Brett เชื่อว่าคนเราสามารถที่จะ focus เพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เพียงสิ่งเดียว เท่านั้น

สำหรับ Brett ตอนที่บริษัทเริ่มเติบโตมากขึ้น เขาต้องทำงาน admin หลายอย่าง เช่น งานบัญชี และจ่ายเงินเดือน ซึ่งดูดเวลาเขาไปมากมาย OKRs ข้อแรกของเขาคือ

 

 

Objective: จ้างผู้บริหารมาช่วยงาน

Key Results

  1. จ้างผู้อำนวยการด้านการเงินและการบริหารงาน 1 คน (สัมภาษณ์ผู้สมัครอย่างน้อย 3 คน ในไตรมาสนี้)
  2. จ้างผู้จัดการฝ่ายการตลาด 1 คน (สัมภาษณ์ผู้สมัครอย่างน้อย 5 คน ในไตรมาสนี้)
  3. จ้างผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ 1 คน (สัมภาษณ์ผู้สมัครอย่างน้อย 5 คน ในไตรมาสนี้)

ตอนเริ่มทำ OKRs Brett ทดลองทำด้วยตนเองและทำในบางแผนกก่อน เมื่อเรียนรู้ข้อผิดพลาดต่างๆไปแล้ว ค่อยขยายผลต่อ ความสำเร็จของการใช้ OKRs ทำให้ Remind สามารถระดมทุนได้ 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ใน Series C ได้สำเร็จ

Brett กับ David สร้างวิสัยทัศน์ของบริษัท คือ “ให้นักเรียนทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ” เขากล่าวว่า เราอยู่ในโลกที่สามารถกดปุ่มเรียกรถแท็กซี่ได้ภายในห้านาที แต่พอนักเรียนขาดเรียนหรือเรียนตามไม่ทัน เราต้องใช้เวลาถึงหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะรู้เรื่อง ซึ่ง Remind คือ App ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว กล่าวได้ว่า Focusing on what matters ถูกปลูกฝังไปใน DNA ของบริษัทตั้งแต่ วิสัยทัศน์ การใช้ OKRs ในการบริหารงาน

ตอนนี้ค่อนข้างยาว อ่านแล้วเหนื่อยไหมครับ ดีใจที่คุณอ่านจนถึงบรรทัดนี้

หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะครับ

สำหรับท่านที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมของ Remind ตามไปที่ Link เลยครับ

สวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า

#SMEsFreeTool

#OKRs