จริงๆแล้ว วิธีการที่จะเริ่มทำ OKR ในองค์กร ก็คือ เริ่มทำ ซึ่งองค์กรของคุณอาจมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันทั้งในด้านวัฒนธรรม รูปแบบ และคุณค่า ซึ่งทำให้ DNA ของธุรกิจของคุณมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
สำหรับองค์กรที่ค่อนข้างอนุรักษ์ (Conservative) คุณจะพบว่าการดำเนินธุรกิจของคุณจะค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นการนำ OKR ไปใช้ ก็จะเป็นแบบเรียนรู้ไปก่อนแล้วค่อยเริ่มทำจริง (Learn & Launch)
สำหรับองค์กรที่เน้นความท้าทาย (Aggressive) คุณก็อาจจะนำ OKR ไปปฏิบัติเลย แล้วก็ค่อยๆเรียนรู้ผ่านการทำงานจริง (Launch & Learn)
กระบวนการในการเรียนรู้ OKR ประกอบด้วย การศึกษาตัวอย่าง การแลกเปลี่ยนความรู้ การสนทนา การประชุม และการฝึกอบรมภายนอก ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องเริ่มนำ OKR ไปใช้
แต่คำว่าเริ่มต้น ไม่ได้หมายถึงการนำ OKR ไปใช้ทันทีสำหรับพนักงาน 50 100 หรือ 1,000 คน ตั้งแต่วันแรก ควรเริ่มที่จะทำในหน่วยงานเล็กๆก่อน (pilot team) เช่น
• แผนกหรือหน่วยงานย่อย ซึ่งครอบคลุมทุกคนในหน่วยงานนั้น ตั้งแต่หัวหน้าจนถึงพนักงาน
• ทีมผู้บริหารระดับสูง จาก CEO หรือ C level และระดับรองลงมา ซึ่งประกอบด้วยระดับ VP และในบางครั้งก็รวมถึงระดับผู้อำนวยการ
เราอาจเลือกแนวทางใดแนวทางหนึ่งข้างต้น โดยเริ่มกำหนด OKR ของทีม Check-in ประชุม ทบทวน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ถึงโครงสร้างและกระบวนการของ OKR และแนวทางที่จะดำเนินการให้สำเร็จ
โปรดระลึกอยู่เสมอว่า คุณจะเรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย คุณจะรู้ว่าอะไรมัน work อะไรที่ไม่ work สำหรับธุรกิจของคุณ ทั้งนี้ OKR ของคุณจะมีความเฉพาะตัวและขึ้นอยู่กับ โครงสร้าง วัฒนธรรมและกระบวนการ
โครงสร้าง หมายถึงทั้งโครงสร้างองค์กรและ โครงสร้างที่องค์กรนำ OKR ไปใช้ คุณสามารถนำ OKR ไปใช้ได้ทั้งในระดับองค์กร แผนกหรือ ลงลึกถึงในระดับบุคคล ในบางกรณีก็มีการตั้ง OKR เฉพาะระดับบุคคลเท่านั้น
กระบวนการ หมายถึง กระบวนการของ OKR อาทิ การวางแผน การติดตามความคืบหน้ารายสัปดาห์ การปรับเปลี่ยน OKR รายไตรมาส ซึ่งคุณจำเป็นต้องออกแบบกระบวนการของ OKR ให้เหมาะกับลักษณะเฉพาะขององค์กรของคุณ
วัฒนธรรม หมายถึง โปรแกรม OKR จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นกับวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งผู้นำองค์กรมีบทบาทสำคัญในการสร้าง
ในการนำ OKR ไปสู่ภาคปฏิบัติ ซึ่งเป็นอัตลักษณ์หรือ DNA ขององค์กรคุณ อาจต้องใช้เวลาหลายไตรมาสในการทดลอง
OKR Quick Start Guide
• แต่งตั้งทีม(pilot team)
• วางแผน 3-5 OKRs สำหรับทีม
• ทำให้ OKR ในทีมมีความสอดประสานกัน (alignment)
• ทำการบันทึกความคืบหน้า (check-ins) รายสัปดาห์
• หาทางลดหรือกำจัดอุปสรรคในการบรรลุผลลัพธ์หลัก
• สื่อสารถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น วางแผนอย่างมีประสิทธิผลและแก้ไขปัญหาทันที
• บันทึกสิ่งที่เรียนรู้เป็นประจำ
• สะท้อนผลสัมฤทธิ์และตั้งค่า OKR ใหม่ เมื่อสิ้นสุดไตรมาส
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ดูง่าย คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก website นี้
คุณอาจหาที่ปรึกษาหรือ software มาช่วยในกระบวนการนี้ แต่คุณก็สามารถเริ่มและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
แล้วพบกันใหม่นะครับ