สวัสดีเช้าวันอังคารอันสดใส หลายๆท่าน WFH กันมามากกว่า 1 เดือน แล้ว คงชินนะครับ ว่าเวลาไหนทำงาน เวลาไหนพัก Expert บอกว่าเพื่อให้ WFH อย่างมี Effectiveness สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้ตารางชีวิต routine เช่น ตื่น 7 โมง ออกกำลังกาย 8 โมง เริ่มงาน 9 โมง ตอนนี้บริษัทหลายๆแห่งเริ่มปฎิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง มากขึ้นและเป็นสวรรค์ของธุรกิจออนไลน์

ตอนนี้ดูทรงแล้วผมคงต้องทำงานอยู่บ้านนานขึ้น อย่างเร็วก็ 1 มิ.ย.ถึงจะเข้า office ก็เลยเริ่มสั่งปัตตาเลียนมาใช้ มานั่งนึกดูก็สั่งสินค้าบ่อยขึ้น ตั้งแต่ หม้อทอดไร้น้ำมัน เปลญวณ เก้าอี้สนาม ชุดกีฬา เครื่องชงกาแฟ กระเป๋าตัง แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่ค่อยจะช้อปปิ้งออนไลน์ จริงๆ Flash sell มันเกินจะห้ามใจลดที 50-75 % สั่งบ่อยจน คนข้างๆ ค้อนและฝากสั่ง นอกจากนี้การสั่งอาหารจาก super app เช่น GRAB LINE ราคาดีมาก ดีกว่าการไปซื้อโดยตรงที่ร้าน

จะเห็นได้ว่าธุรกิจเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้บริโภคมากขึ้น (B2C) ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงของแต่ละสถาบันการศึกษาที่มาสร้าง market place ช่วยศิษย์เก่าขายสินค้า สินค้าที่ขายก็น่าสนใจมาก มีตั้งแต่ ปูผัดข้าว คอนโด ที่ดิน และใบอนุญาตประกอบกิจการอาบอบนวด (สาบานได้ว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงครับ เผอิญเป็นศิษย์เก่าหลายสถาบันฯ)

แน่นอนเมื่อมีผู้ขายเยอะ ผู้ขายก็จำเป็นต้องรู้ถึง Buyer Persona ซึ่งเป็นคุณลักษณะเฉพาะของผู้ซื้อ สมัยผมเรียน MBA เมื่อนานโข แบ่งลูกค้าเป็นแค่ Mass market และ Niche market ซึ่งแนวคิดนี้ out ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วย social media ใหม่ๆ เช่น Facebook สามารถที่จะเจาะลึกถึง buyer persona ได้ละเอียดยิบ จนคุณแปลกใจทีเดียว นี่จึงเป็นที่มาของการล่มสลายของสื่อทีวี สื่อหนังสือพิมพ์ แบบเก่าที่ต้นทุนในการประชาสัมพันธ์ไปสู่ลูกค้าแพง และไม่ได้ผล

ทำไมเราต้องรู้จัก Buyer persona?

1. มีผลการวิจัยว่าบริษัทที่รู้จักใช้ buyer persona ใน e-mail campaign ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าเดิม 2 เท่าและ click link ไปยัง site ที่ต้องการ 5 เท่า
2. Website ที่ใช้ persona ลดการที่ลูกค้าเข้ามา click แค่หน้าเดียวแล้วไป ได้ถึง 2-5 เท่า
3. 79 % ของลูกค้ามีความพึงพอใจและจงรักภักดีในแบรนด์ เพราะแสดงถึงการที่เข้าใจในลูกค้า

ทีนี้ เรามาลองเรียนรู้วิธีการทำ persona แบบง่ายๆ ก่อนโดย เรียนรู้ผ่านการตั้งคำถาม
• ลูกค้าคุณอายุเท่าไร
• เพศไหน
• พวกเขา serious ในเรื่องราคาสินค้าไหม

• สิ่งที่เขาต้องการจากบริษัทหรืออุตสาหกรรมของคุณคืออะไร
• เขาเล่น social media ไหม และ app ไหน
• เขาชอบเทคโนโลยีแบบไหน

• ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เขามีการดูข้อมูลหลายๆแหล่งไหม
• เขาคือผู้มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อไหม

ถ้าคุณขายสินค้าสำหรับเด็ก แน่นอนผู้มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อคือ ผู้ปกครอง การที่คุณตั้งคำถามได้ถูกต้องนำไปสู่การเรียนรู้ลักษณะของผู้บริโภค และช่วยให้คุณขุด แคะ และล้วงลึกเข้าไป ว่าอะไรคือสาเหตุที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
แน่นอนการหา persona ของลูกค้า ไม่ใช่การเดาสุ่ม คุณต้องทำการวิจัย (research) ซึ่งมีหลายวิธี เช่น

1. คู่แข่ง (competitor) ดูว่าเขาทำอะไรบ้าง วิธีในการที่เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายทำอย่างไร ดูว่าเขาใช้ social media ยังไง ดูว่าเวลาคู่แข่งถูก complain เขาแก้ไขปัญหาอย่างไร
2. สำรวจ (survey) วิธีการที่ดีที่สุด คือ การถามลูกค้าตรงๆ คำถามปลายเปิด จะช่วยให้คุณรู้ถึงข้อมูล และความคิดเห็นของลูกค้า
3. ข้อมูลดิบ (data) ถ้าสามารถเก็บข้อมูลได้ถึงว่าลูกค้ามาจากไหน ขนาด order ที่สั่ง แบรนด์ที่ลูกค้าขอบ และเวลาที่ลูกค้าสั่ง ข้อมูลบางส่วนหาได้จาก insight ใน FB ซึ่งเราสามารถติดตามลูกค้าได้ว่า เข้าไปใน group หรือ forum ไหน ถ้าบริษัทฯมีงบประมาณ อาจจัดทำ focus group กลุ่มย่อย เพื่อที่จะหาข้อมูลในเชิงลึกได้

เครดิตเนื้อหาและภาพ : https://www.profit.co/blog/okr-examples/okrs-for-creating-target-b2c-personas

เพื่อตอบรับ กับการ WFH ขอแนะนำ profit.co ที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็น 1 ใน 10 ของ HRTECH Outlook’s Top Performance Management Solution Providers list- 2019
ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในคุณภาพ software ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญ Software นี้ รองรับภาษาไทยได้แล้วครับ

สำหรับผู้สนใจผมยินดี Demo Software และ ให้ความรู้เบื้องต้น เรื่อง OKR ผ่าน zoom call นะครับ

#SMEsFreeTool