โทรศัพท์มือถือ apple มีการออกรุ่นใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ถึงรุ่นที่ 12 แล้ว ทำให้นึกถึงในอดีตก่อนยุครุ่งเรืองของ apple มีโทรศัพท์มือถือ BlackBerry ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงมาก แต่สุดท้ายก็แทบจะไม่เหลือส่วนแบ่งตลาดเลย เราจะมาลองดูว่า ความล้มเหลวทางธุรกิจที่เกิดจากกระบวนการคิดเป็นอย่างไร

BlackBerry ก่อตั้งขึ้นโดยนักธุรกิจชาวกรีก ชื่อ Mike Lazaridis ซึ่งเป็นอัจฉริยะด้านการซ่อมแซมและประดิษฐ์ ผลงานชิ้นแรกๆ คือ การประดิษฐ์เครื่องอ่านบาร์โค้ดบนฟิลม์ภาพยนตร์ ซึ่งได้รับรางวัล Emmy และ Oscar ด้านความเป็นเลิศทางเทคนิค

BlackBerry ถือว่าเป็นเจ้าตลาดสมาร์ทโฟน ในปี 2009 ซึ่งเป็นยุคที่รุ่งเรืองนั้นมีส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนสูงถึง 50% ในสหรัฐอเมริกา และ 20 % ทั่วโลก ในปี 2011 มียอดขายสูงถึง 50 ล้านเครื่อง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือการที่ยอดขายตกต่ำอย่างต่อเนื่องและแทบจะหยุดการผลิตในปี 2016 เกิดอะไรขึ้นกับ BlackBerry

ปัญหาเกิดจากการที่ BlackBerry ไม่สามารถปรับตัวไปกับความเปลี่ยนแปลง อะไรเกิดขึ้นกับ Mike ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ประธาน และ co-CEO ที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงตลาดสมาร์ทโฟนของโลก เขาทำอะไรผิดหรือ

ผู้คนส่วนใหญ่ยึดติดกับความรู้ ความชำนาญ ยึดมั่นกับความเชื่อและความคิดเห็น ซึ่งถูกต้องในโลกที่หยุดนิ่ง แต่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้น เราต้องใช้เวลาในการทบทวนความคิด (Rethinking) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกรอบความคิด (Mindset)

ด้วยความก้าวหน้าด้านข้อมูลและเทคโนโลยี ในแต่ละวันเรารับข้อมูลและข่าวสารจำนวนมหาศาล การตัดสินใจสำคัญๆในชีวิตของเรา เช่น เรื่องสุขภาพ เรายังมองหา second opinion จากหมอท่านอื่น

โชคไม่ค่อยดีที่เมื่อถึงการตัดสินใจที่เกี่ยวกับความรู้ ความคิดเห็น เรามักใช้ความรู้สึกมากกว่าข้อเท็จจริง

เราลองวิเคราะห์ Mike ผ่านการคิดจาก บทบาททั้ง 4 ดังนี้

นักวิทยาศาสตร์ (Scientists)

ในวัยเด็ก Mike มีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์อย่างน่าอัศจรรย์ ตั้งแต่การสร้างแผงโซล่าเซลล์จนชนะเลิศในงานวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน การอ่านตำราวิทยาศาสตร์ทุกเล่มในห้องสมุด พอมาเริ่มธุรกิจ ก็สามารถสร้าง BlackBerry ที่ง่ายแก่การใช้งาน โดยใช้นิ้วโป้ง กดพิมพ์งานได้อย่างสะดวก

มีจุดเด่นในการ “ส่งอีเมล” ถึงมือถือผู้ใช้ การมีแผงปุ่มกด QWERTY ที่เป็นแป้นพิมพ์มาตรฐานเหมือนที่มีในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกในการพิมพ์ข้อความยาวๆ เพื่อส่งอีเมลหรือแชตเป็นเวลานานๆ

จนเมื่อ ไอโฟนถือกำเนิดขึ้นในปี 2007 Mike ยังคงเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ต้องการมือถือสำหรับส่งอีเมลและโทรศัพท์ ไม่ใช่การที่มีระบบคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องอยู่บนมือถือ แม้แต่ในช่วงเวลานั้น วิศวกรของเขาต้องการเพิ่ม internet browser แต่ Mike กลับบอกให้สนใจเฉพาะอีเมลเท่านั้น เพราะมันจะทำให้ แบตเตอรี่หมดเร็วและรบกวน banwidth ของเครือข่าย

ในปี 2008 บริษัทมีมูลค่าเกิน 70 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ BlackBerry เป็นสินค้าหลักของบริษัท ในปี 2010 เพื่อนร่วมงาน เสนอกลยุทธ์ที่จะสามารถส่ง ข้อความเข้ารหัส (encrypted text message) ไปที่เครือข่ายอื่นได้ Mike กลับมองว่าสิ่งนี้จะทำให้มือถือของเขาล้าหลัง ส่งผลให้ขาดโอกาสดีๆในการทำธุรกิจกับ WhatsApp

ความเป็นอัจฉริยะของ Mike ไม่ได้ทำให้เขาทบทวนกระบวนการคิดถึงผลิตภัณฑ์ของเรา ความฉลาดไม่ได้เป็นสิ่งที่ช่วยรักษาธุรกิจ แต่เป็นคำสาปมากกว่า (Intelligence was no cure-it might have been more of a curse)

ขอฝาก Quote ที่ควรทบทวนเสมอ
“The smarter you are, the more you might struggle to update your belief”

สวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปครับ

เครดิตบทความ THINK AGAIN: The Power of Knowing What You Don’t Know ของ ADAM GRANT นักเขียนชื่อดังที่ได้ #1 New York Times best seller จากหนังสือ ORIGINALS