องค์กรขนาดใหญ่หลายๆแห่งพบความท้าทายที่จะนำ พนักงานจำนวนมาก ให้ขับเคลื่อนพันธกิจองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน หนึ่งในเครื่องมือที่จะช่วยในการขับเคลื่อนองค์กร คือ OKR

Peter Drucker กูรูทางการบริหารชื่อดัง กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า
ถ้าคุณต้องการสิ่งใหม่ คุณจำเป็นต้องหยุดทำสิ่งเดิมๆ
If you want something new, you have to stop doing something old.

กรอบแนวคิด OKR เป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ช่วยผู้นำให้สามารถสร้างความโปร่งใส ความรับผิดชอบและ เป็นเข็มทิศสำหรับตัวเขาและทีม เครื่องมือนี้ช่วย กระจายกลยุทธ์ธุรกิจ เป็นเป้าหมายระยะสั้นที่วัดผลได้ OKR ช่วยให้ทีมติดตามความก้าวหน้าของเป้าหมาย รายไตรมาสและ ช่วยองค์กรให้เรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด

OKR เป็นเครื่องมือสำคัญในการตั้งเป้าหมายเพื่อวัดความเติบโตและความก้าวหน้า ในทุกระดับทั่วทั้งองค์กรจากผู้บริหารระดับสูงสุดไปยังพนักงานใหม่ เครื่องมือนี้ทุกนำมาใช้โดย Google ซึ่งผลักดันให้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกในวันนี้ OKR เมื่อนำมาใช้กับสไตล์ของผู้นำที่ถูกต้อง ช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายภายในเวลาที่จำกัด

ในบทความนี้ จะอธิบายถึงว่า OKR ช่วยผู้นำในการเพิ่มผลิตภาพของทีมได้อย่างไร

โครงสร้างของ OKR
ในมุมมองของผู้นำ OKR ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสองคำถาม

สำหรับวัตถุประสงค์ : เราต้องการที่จะพาธุรกิจเราไปถึงจุดไหน
วัตถุประสงค์ ช่วยกำหนดทิศทางบริษัท เพื่อใช้ในการนำทีม และทำให้ทีมบริหารงานให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์องค์กร

สำหรับผลลัพธ์หลัก : ตัวชี้วัดอะไร ที่เราอยากเห็นจากทีม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายองค์กร
ผลลัพธ์หลักช่วยวัด ผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์ ซึ่งควรประกอบด้วยผลลัพธ์เฉพาะหลายๆตัว ซึ่งเมื่อรวมกัน ทำให้เป้าหมายองค์กรบรรลุได้ในที่สุด

คุณลักษณะสำคัญ 3 ประการของ OKR ที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ

โปร่งใส: OKR ทั่วทั้งองค์กรโปร่งใส ทุกคน ทุกทีม สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ทั้งนี้เพื่อที่จะเรียนรู้ถึง ลำดับความสำคัญของเป้าหมายทั้งของเพื่อนร่วมงาน ผู้นำและสมาชิกทีม

ท้าทาย: เป้าหมายที่ตั้งต้องท้าทาย เพราะจะช่วยให้ทุกทีม ร่วมกันคิดเชิงกลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมายภายใต้เวลาที่กำหนด

วัดผลได้: ถ้าไม่มีการวัดผลความก้าวหน้า คุณจะไม่รู้ว่า เข้าใกล้เป้าหมายที่ตั้งไว้เพียงใด การใช้ตัวชี้วัดช่วยคุณเขียนเป้าหมายที่วัดผลได้ การติดตามความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งจำเป็น

ผู้นำ 7 สไตล์กับ OKR

OKR สามารถช่วยผู้นำแต่ละสไตล์ในการบริหารธุรกิจได้อย่างไร

1.ผู้นำสไตล์เผด็จการ (Autocratic)
สไตล์ผู้นำแบบนี้ ใช้แนวทางสั่งการและควบคุม (command and control) ซึ่งแนวทางนี้เริ่มใช้ไม่ได้ในปัจจุบันเพราะผู้บริหารและพนักงานมีความสามารถมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้นำสไตล์นี้ก็จะรู้สึกว่าการใช้ OKR เป็นเรื่องง่าย เพราะช่วยในการจัดลำดับความสำคัญ ถ่ายทอดเป้าหมาย และการกำหนดผู้รับผิดชอบในงาน

2.ผู้นำสไตล์ยึดถืออำนาจ (Authoritative)
สไตล์ผู้นำแบบนี้จะเป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ และส่งเสริมให้ทีมดำเนินการตาม ผู้นำสไตล์นี้จะพบว่า OKR เป็นเครื่องมือที่จะช่วยถ่ายทอดวิสัยทัศน์จากระดับบนไปสู่การทำงานประจำวันของพนักงาน

3.ผู้นำสไตล์มาตรฐานสูง (Pacesetting)
ผู้นำสไตล์นี้คาดหวังมาตรฐานผลงานที่สูงจากทีมและผลักดันให้ทีมมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง ผู้นำสไตล์นี้สนใจ OKR ตรงที่ การตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย ซึ่งเป้า OKR ที่ดีนั้นต้องบรรลุได้เพียง 75-80% เมื่อใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้ว

4.ผู้นำสไตล์ประชาธิปไตย (Democratic)
ผู้นำสไตล์นี้ต้องการความคิดเห็นจากทุกคน และพยายามส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ผู้นำลักษณะนี้ตรงกับ แนวคิด OKR ที่ให้พนักงานระดับล่างมีส่วนร่วมในการกำหนด OKR และการทำให้ OKR ของระดับทีม และพนักงาน มีความสอดคล้องกับ OKR ระดับบน (bottom-up alignment.)

5.ผู้นำสไตล์โค้ช (Coaching)
ผู้นำสไตล์นี้จะโค้ชทีม และค้นหา(tease out) ศักยภาพของพนักงาน ให้คำแนะนำ เพื่อไปสู่ผลงานที่ดีขึ้น OKR เมื่อมีการติดตามบน platform ที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้ผู้นำสามารถเห็นถึงผลงานของพนักงานแต่ละคนเมื่อเทียบกับ OKR เป้าหมาย และเมื่อมีการ update OKR รายสัปดาห์โดยการ check-in ผู้นำก็จะสามารถที่จะช่วยพนักงานในการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

6.ผู้นำสไตล์สร้างความสามัคคี (Affiliative)
ผู้นำสไตล์นี้มุ่งเน้นที่พนักงาน (people-focused) และใส่ใจในความเป็นไป (well-being) ของทุกคนในทีม ทั้งในเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ผู้นำสไตล์นี้จะคุ้นเคยในการติดตามความก้าวหน้าของ OKR รายสัปดาห์ และหากคนใดคนหนึ่งในทีม มีผลงานที่ช้ากว่าเป้าหมาย ก็สามารถที่จะเข้าไปแนะนำและให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

7.ผู้นำสไตล์เสรีนิยม (Laissez-Faire)
ผู้นำสไตล์นี้จะให้อิสระแก่ลูกน้องในการทำงาน ให้เสรีภาพในการแก้ปัญหาเอง โดยผู้นำจะให้ทรัพยากรต่างๆทั้งเครื่องใช้และงบประมาณที่จำเป็นแก่การทำงานเพื่อให้ลูกน้องทำงานได้ด้วยตัวเอง ซึ่งกรอบแนวคิด OKR ก็ช่วยให้ผู้นำสามารถสื่อสารวิสัยทัศน์ระดับองค์กร และให้หัวหน้าทีมและพนักงาน มีส่วนในการคิดวัตถุประสงค์ของตนเพื่อตอบโจทย์องค์กร

สรุป
เป็นไงบ้างครับ ผู้อ่านเป็นผู้นำสไตล์ไหน
Admin มองว่า บทบาทผู้นำในองค์กร คงไม่ตายตัว ยึดแบบใดแบบหนึ่งเป็นหลัก แต่คงต้องมีการผสม และเลือกใช้สไตล์ให้เหมาะกับทีม พนักงาน (No one-style-fits-all)
Admin หวังว่า บทความนี้จะช่วยให้พวกเราชาว HR มีข้อมูลในการ convince ผู้นำองค์กรแต่ละสไตล์ในการนำ OKR มาใช้ในองค์กร

สถานการณ์ Covid-19 สายพันธุ์ โอไมครอน ค่อยๆดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมดูแล รักษาสุขภาพนะครับ

สวัสดีครับ แล้วพบกันใหม่

เครดิตเนื้อหา https://www.profit.co/blog/okr-university/leadership-styles-and-okrs/

หมายเหตุ
สำหรับท่านที่สนใจนำ OKRs ไปใช้ในองค์กร ทาง admin ขอแนะนำหลักสูตร OKRs Concept and Workshop- ผ่านระบบ Zoom (6 ชม) สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 099-249-1636 หรือ info@bacconsultant.com
มีข่าวดีเพิ่มเติม คือ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน อนุมัติเรื่อง E-Training ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ให้ การฝึกอบรมออนไลน์นี้สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 200 % แต่ต้องมีการบันทึกภาพและเสียงตลอดการฝึกอบรม และมีจำนวนผู้รับการฝึกอบรมรุ่นละไม่เกิน 30 คน